i-PDPA
19 มิถุนายน 2568
การเป็นดาราที่มีชื่อเสียงเป็นจุดสนใจ จะมาซึ่งรายได้ที่งดงามจากหลายๆช่องทางทั้งการแสดง การรับงานโฆษณา การรับงานโชว์ตัว แต่การเป็นคนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ก็มีราคาที่ต้องจ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเป็นส่วนตัว ยิ่งถ้าหากดาราคนนั้นมีแฟนคลับที่มีความคลั่งไคล้ต่อตัวดาราจนเกินพอดี มีการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างขาดสติ มีพฤติกรรมล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของศิลปินในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะกดรอยตามถึงบ้านถึง การแอบเข้าไปในโรงแรมที่พัก โดยมีคำเรียกแฟนคลับกลุ่มนี้ว่า “ซาแซง” จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตทั้งของส่วนตัวและทั้งคนครอบครัว เป็นไปอย่างยากลำบาก และอาจถึงเสี่ยงอันตราย
ล่าสุดได้เกิดกรณีดาราสาวชื่อดังรายหนึ่ง ได้ถูกคุกคามจากแฟนคลับพวกซาแซง โดยพวกซาแซงจะรู้ความเคลื่อนไหวของดาราสาวท่านนี้ทุกย่างก้าว แล้วคอยดัก คอยตาม คอยเข้าหาจนทำให้ดาราสาวท่านนี้ถึงกับมีอาการจิตตก จากคนที่เคยสดใสร่าเริง กลับกลายเป็นคนที่หวาดระแวง วิตกกังวล ส่งผลต่อสุขภาพทั้งปวดศรีษะ นอนไม่หลับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ตอนแรกดาราสาวท่านนี้ก็แปลกใจว่ากลุ่มบรรดาซาแซงเขารู้ได้อย่างไร
แล้วมาทราบต่อมาภายหลังว่า คนที่ส่งข้อมูลให้ซาแซงเหล่านี้ให้ได้รู้ข้อมูล ความเคลื่อนไหวของตัวเธอนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน แต่เป็นคนขับรถของตัวเธอเอง โดยคนขับรถจะคอยส่งข้อมูลการเดินทางของดารา แหล่งที่อยู่ รวมทั้งข้อมูลการติดต่อต่างๆ ซึ่งทำให้ดาราสาวและครอบครัวตกใจมาก เพราะคาดไม่ถึงว่า คนที่ไว้ใจจะร้ายกาจได้มากถึงเพียงนี้ ซึ่งแรงจูงใจที่คนขับรถส่งข้อมูลให้ซาแซงก็เพราะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน อามิสสินจ้างทั้งในรูปแบบของเงินทอง สิ่งของ เช่น เสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น
แล้วในมุมของ PDPA การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คนขับรถคนนี้จะได้รับโทษอะไร
กรณีของคนขับรถของดาราสาวท่านนี้ การที่คนขับรถเอาข้อมูลส่วนบุคคลของดาราสาวส่งให้ซาแซง เข้าลักษณะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ล่วงรู้ข้อมูลจากการปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นคนขับรถ แล้วนำไปเปิดเผยแก่บุคคลอื่น โดย PDPA ได้กำหนดโทษทางอาญาไว้ ที่ใกล้เคียงกับกรณีนี้ ดังนี้ครับ
“มาตรา 79 วรรคสอง:
หากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 80:
ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตาม PDPA แล้วนำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
โดยพฤติกรรมของคนขับรถดาราสาว ไม่ได้นำข้อมูลส่วนบุคคลของดาราสาวไปเปิดเผยแก่บุคคลอื่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำไปแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มซาแซงอีกด้วย ดังนั้น หากมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด คนขับรถคนนี้มีโอกาสรับโทษสูงสุดคือ “จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
และหากมีการกระทำผิดหลายครั้ง ก็จะรับผิดแยกเป็นแต่ละกระทงความผิด ซึ่งจากข้อมูลที่ได้ทราบจากข่าวที่ออกมา คนขับรถคนนี้ได้ทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว ณ วันที่เขียนบทความชิ้นนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่า ทางดาราสาวและครอบครัวจะดำเนินการอย่างไรทางคดีต่อคนขับรถของเธอ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมอยากให้มีการดำเนินการเพื่อให้คนทำผิดเกิดการหลาบจำ และไม่ไปกระทำเรื่องเช่นนี้กับใครคนอื่นอีก